Saturday, March 21, 2015

06 『I can change ~Be myself~』

** ก่อนหน้านี้มีปัญหากับหน้าบล็อกเรานิดหน่อยทำให้เอนทรี่ที่ผ่านๆ มาโดนซ่อนไว้ 
ตอนนี้กดอ่านได้ตามปกติแล้วฮะ

ก่อนหน้านี้ในคาบเรียน มีกิจกรรม Story telling หรือเล่าเรื่องราวที่เราเห็นให้อีกฝ่ายฟัง 
จุดประสงค์คือให้อีกฝ่ายเข้าใจและนึกภาพตามไปได้ ดังนั้นกุญแจสำคัญอยู่ที่ตัวผู้เล่า 
ถ้าเล่าเรื่องไม่ปะติดปะต่อ เยิ่นเย้อ หรือเลือกใช้คำไม่ถูก ก็จบกัน

บล็อกในวันนี้มาในธีม I・CAN・CHANGE!!!(เอนจ์ เอนจ์ เอนจ์.../เอคโค่) โดยเอา progress ที่ผ่านๆ มาตั้งแต่เริ่มทำกิจกรรมนี้นี่แหละมารายงาน ซึ่งเอนทรี่นี้เป็นพาร์ทแรกเท่านั้น

เรากับคู่ของเราจะสลับกันเล่าคนละเรื่อง เรื่องของเราคือ 外国人 เรื่องราวตามที่เห็นนี้


(แหล่งที่มาของการ์ตูนสี่ช่อง)


★☆★


เล่าเป็นภาษาไทยมันก็โอเคอยู่หรอก แต่พอให้เล่าเป็นญี่ปุ่นเท่านั้นแหละ ทำใจและตั้งสติอยู่สักพักจนเพื่อนต้องทัก...จึงเริ่มกดปุุ่มอัดเสียง
และนี่คือสคริปต์ที่ได้จากการแกะเทปครั้งแรก พยายามแล้วที่จะไม่บิดเบือนจากของจริงใดๆ สดมายังไงก็อย่างนั้น เพราะพอมาฟังที่ตัวเองพูดแล้วอยากแก้ใจจะขาด๕๕๕๕ฮือ


あの、話したいことがあります。(なになに?)この前、私はホテルにいました。それで、二人の男の人が、ホテルのロビーのソファーに座っていました。(へえー)左側の座っていた男の人はメガネをかけて、新聞を読んでいました。ああ、左側?)はい。あのー(左側の・・・ソファの・・)あ、はい。ソファの左側(ああ、そう。)あ、でも私の、あのう・・私からの左側ですね。男の人なら右になります。(ああ・・・)かりますね。(はい。分かります。)そして、もう一人の男の人はなんか、最初の男より若くて、右側に座っていました。(ああ)それで、この若い男の人は、なんか、向こう側は、柱があります。(えっ、ちょっと、若いの人は誰だっけ。)若いの人は私から右側(右側!ああ・・新聞読んでいません?)ああ、はい。読んでいない。そしてメガネもかけていない。(あ、はい。)ええと、向こう側は外国人がいました。(ああ)その外国人は、ええー・・・ツアーリストは日本語でなんだっけ。(あ~ ツアーリストみたい)はい。ツアーリストみたいな外国人です。そして、町の地図を見ていました。はい。そして、向こう側の外国人と、若いの男の人はなんか、目、目を・・・目に合って?)はいはい。目に合ってます。ええと、キラッ!っていう感じで、(おお・・・)そして、目に合ってから、すぐに、外国人は男の人にすぐ歩いて行きます。(ああ!)なんか、道を聞きたいと思っています。(あ、迷い子かな~)はい。あの外国人は道を知りたいそうですね。でも、なんか、若いの男の人は、びっくりして、外国人が苦手かなっと思います。英語とか話せないとか、とにかく苦手な顔をして(はあ・・)それで、最後は、いや、隣の新聞を読んでいた男は、まだ覚えています?(はい。覚えています。)はい。あの若いの人は、隣に、あの、メガネをかけている人に近くして、(ああ!)なんか、新聞を、自分のことを隠しようと・・・うおお、ああ!わかった)しました。はい。外国人から隠した。面白い!外国人はちょっと怖いな)その外国人はなんか、「へえー、何だそれ・・・」(ああ、そんなに私と話したくないか?と思って)はは。なんか可哀想。(可哀想なあ、迷っているのに)  


ข้อสังเกตที่พบในครั้งนี้

1. 日本語力が足りない!!อันนี้มันแน่นอนwwww それは当然だ! 
จะคำศัพท์เอย ไวยากรณ์เอย คำเชื่อมเอย ปกติตอนเขียนก็เขียนไม่ค่อยจะได้อยู่แล้วพอยิ่งให้เล่าเรื่องมันก็พูดตามที่คิดไม่ได้ดังใจ 
2.  ยาว.... คือเราเล่าจากการมองภาพการ์ตูนใช่ไหม เพราะงั้นเลยติดความคิดที่ว่า [มันต้องอธิบายให้ละเอียดสิไม่งั้นจะเห็นภาพได้ไง] บางช่วงเลยกระจุกอยู่แต่จะอธิบายฉาก จนบางทีส่งผลให้เรื่องยืดเยื้อไม่ปะติดปะต่อ คนฟังก็งง คนพูดยิ่งงง(ฮา) 
3. สำนวนต่างๆ ที่อยากใช้ตอนพูดแต่นึกไม่ออก เช่น "ยืนหลังพิงเสา" "สายตาประสานกัน" "เขยิบเข้าไป"
4. คำเชื่อมมีอยู่ไม่กี่คำ ไม่ それで ก็ そして แค่นี้แหละพี่น้อง
5. อะไรที่พูดไม่ออกบอกไม่คล่องก็จะพยายามมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ฟังไว้ก่อน เช่น 分かりますね? หรือ 覚えていますか? ส่วนตัวคิดว่าเป็นข้อดีที่ควรคงไว้ แต่ต้องระวังไม่ให้มากเกินไป ยังไงก็ควรเพิ่มความมั่นใจในการเล่าเรื่องของเราให้มากขึ้น



★☆★

เอนทรี่เป็นเพียงพาร์ทแรก ติดตามพาร์ทต่อไปกับ I See ในเอนทรี่หน้านะฮะ



つづく


(ただ、一度こう書いてみたかっただけ・・・

1 comment: